ประโยชน์ - เชอร์รี่


เชอร์รี่เป็นผลไม้ต่างประเทศที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี
เพราะปัจจุบันเชอร์รีหากินง่าย กินได้ทั้งสด และเชอร์รีที่นำมาเชื่อม
เพื่อตกแต่งอาหารหวานอย่างไอศกรีมหรือเค้กให้น่ากินมากยิ่งขึ้น

       เชอร์รี่ มีหลากหลายพันธุ์ เชอร์รี่หวานมีถิ่นกำเนิดมาจากป่าในประเทศอังกฤษ สกอตแลนด์
และแถบเอเซียตะวันตก มีชื่อสามัญว่า Wild cherry ชื่อ วิทยาศาสตร์ว่า Prunus arium (L.) L.

เชอร์รีเป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ใบสีเขียวเข้มเป็นมันดอกมีสีขาวอมชมพู ขนาดเล็ก ผลกลม
ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางผล 1.5-2 ซม. เปลือกสีแดงเข้ม สีส้ม และสีเหลืองเป็นมันเงา
ก้านผลขนาดเล็กเรียวยาวเมล็ดกลมเล็ก เนื้อนุ่มเป็นผลไม้เมืองหนาว
เติบโตได้ดีในสภาพอากาศ หนาวเย็น เชอรี่มี 2 สายพันธุ์ คือ
เชอร์รีหวานและเชอร์รีรสหวานอมเปรี้ยว
*~ เชอร์รี่ที่นำเข้ามาปลูกในประเทศไทยมีหลายพันธุ์ ดังต่อไปนี้~*
+พันธุ์ Supreme ผลรูปหัวใจ ผิวสีแดงเข้มจนถึงสีแดงดำเนื้อในสีแดงคล้ำ รสหวาน
+ พันธุ์ Rons ผลรูปหัวใจ ผิวแดงคล้ำจนเกือบจะเป็นสีดำ เนื้อในสีแดง ฉ่ำน้ำ เป็นพันธุ์ที่มีกลิ่นหอม
+พันธุ์ Van เป็นพันธุ์ที่มีคุณภาพดี ผลรูปหัวใจ ผิวสีแดงเข้ม เนื้อในสีแดงคล้ำ รสหวาน
+พันธุ์ Bing ผลรูปหัวใจ ผิวสีแดงดำ เนื้อในสีแดง ฉ่ำน้ำ รสหวาน
+พันธุ์ Stella ผลรูปหัวใจ ผิวสีแดงจนถึงดำ เนื้อใน สีแดงดำ มีกลิ่นหอม
+ พันธุ์ Rainier ผลรูปหัวใจ ผิวสีครีมอมส้มและมีจุดสีแดง เนื้อในสีครีมอ่อน รสหวาน มีกลิ่นหอมมาก

::ประโยชน์ของเชอร์รี่::
1.) ช่วยลดการติดเชื้อโรคหวัดช่วยต้านการติดเชื้อแบคทีเรีย
และ ลดการแพ้สารต่างๆ ของร่างกาย วิตามินซี ช่วยรักษาผิวของเม็ดเลือดขาว ไม่ให้ถูกทำลาย
จึงทำให้การเคลื่อนย้ายตัวของ เม็ดเลือขาว ไปยังเชื้อโรคต่างๆ ได้รวดเร็ว
นอกจากนี้ วิตามินซียังช่วยการทำงานของ น้ำย่อย ที่ใช้ทำลายเชื้อโรคเหล่านี้ด้วย
จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่ได้รับวิตามินซีเป็นประจำ จะเป็นหวัดน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้รับ

2.) ช่วยลดการแพ้ต่างๆ รวมทั้งโรคภูมิแพ้โดยยับยั้งสารที่เรียกว่า ฮีสตามีน
เป็นสารที่ร่างกาย สร้างขึ้นมาหากมากเกินไปจะทำให้มี อาการระคายเคืองตามระบบหายใจ
ทำให้จาม มีน้ำมูกไหล นอกจากนี้ยังพบว่า วิตามินซีสามารถลดโอกาส
การติดเชื้อบริเวณปอดได้อย่างมีนัยสำคัญ

3.) เป็นสารต้านออกซิเดชั่น (antioxidant) ทำหน้าที่เป็นสารช่วยยับยั้ง การสร้างสารอนุมูลอิสระ
และยังช่วยซ่อมแซม เซลล์ที่ถูกทำลาย และขจัดโมเลกุลที่ถูกทำลาย
ช่วยป้องกันเซลล์เสื่อมตัวเร็ว ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ได้เช่น
โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดแดงแข็งโรคข้ออักเสบจากรูมาตอยด์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบ ภูมิคุ้มกัน และ
ป้องกันระบบประสาท และสมองจากโรค ความจำเสื่อม อันเนื่องมาจากการมีอายุมากขึ้น

4.) ช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจน (collagen) ซึ่งเป็นโปรตีน
ที่จำเป็นสำหรับ เนื้อเยื้อ ที่ผิวหนัง และกระดูก โดยเฉพาะในเด็ก
ช่วยเสริมสร้างการ เจริญเติบโตในผู้ใหญ่ ทำให้ผิวกระชับ ลดการเกิด ริ้วรอย ก่อนวัย

5.) ทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งแรงช่วยในการสมานตัวของแผล
หากขาดวิตามินซี ซึ่งเป็นสาเหตุการ เปราะ แตกง่ายของผนังหลอดเลือด
ทำให้เลือดออกง่าย

เชอร์รีมีโพแทสเซียมในปริมาณสูงซึ่งเป็น
ประโยชน์ต่อการสร้างความสมดุลกับโวเดียม
ทำให้ความดันโลหิตเป็นปกติ
ระบบไหลเวียนโลหิตดี เราจึงรู้สึกสดชื่น
และกระปรี้กระเปร่าอยู่เสมอ
นอกจากโพแทสเซียมแล้ว เชอร์รียังมีวิตามิน c ที่ช่วยรักษาแผล
ป้องกันโรคลักปิดลักเปิด และรักษาโรคหวัดอีกด้วย
อีกทั้งเชอร์รียีงมีสรรพคุณเป็นยาระบาย ขับพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย
ทำให้เราปลอดภัยไกลโรค
คุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งของเชอร์รีก็คือ เชอร์รีจะลดระดับกรดยูริกในเลือด
ทำให้ป้องกันการเกิดโรคเกาต์ หรืออาการปวดตามข้อได้
นับว่าคุณสมบัติของเชอร์รีมีอยู่มากมายจริงๆ
**ข้อห้าม**ไม่ควรให้ผู้ที่มีอาการอาเจียนรับประทาน

ที่มา - http://annie42.exteen.com