พระธรรมกายเป็นต้นแหล่งแห่งความสุข และความบริสุทธิ์ มีอยู่ในตัวของทุกๆ คน ไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์ มนุษย์ส่วนใหญ่เมื่อยังไม่รู้จัก จึงแสวงหากันผิดที่ ทั้งๆ ที่ปรารถนาอยากเข้าถึงความสุขที่แท้จริง เมื่อหาผิดที่ก็ไม่เจอ ทำให้ต้องแสวงหาเรื่อยไป ความสุขที่แท้จริงรวมประชุมกันอยู่ในกลางธรรมกายที่มีอยู่ในตัวของเรานี่แหละ จะเข้าถึงได้ด้วยใจหยุดนิ่ง ซึ่งมีวิธีการเดียวคือ เอาใจมาหยุดไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ นี้เท่านั้น แล้วเราจะเข้าถึงแหล่งแห่งเอกันตบรมสุข เป็นสุขล้วนๆ ที่ไม่มีทุกข์เจือปน
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ขุททกนิกาย ธรรมบท ว่า
“ความยินดีในธรรมย่อมชนะความยินดีทั้งปวง รสแห่งธรรมชนะรสทั้งปวง การประพฤติธรรมเป็นความดี การบำเพ็ญการกุศลเป็นความดี การให้ความอนุเคราะห์แก่หมู่สัตว์ทั้งหลายเป็นความดี ธรรมที่ประพฤติดีแล้วย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม แล้วย่อมนำความสุขมาให้”
หลวงพ่อจึงมีความปรารถนาอย่างยิ่ง ที่จะให้พวกเราทุกคนในครอบครัว ทั้งภายในและต่างประเทศได้เข้าถึงพระธรรมกาย จะได้รู้จักคำที่ว่ารสแห่งธรรมชนะรสทั้งปวงนั้นเป็นอย่างไร เข้าถึงแล้วจะยังประโยชน์สุขให้แก่ตนเองและต่อโลกอย่างไร เมื่อไรที่เราได้รับรสแห่งธรรม เมื่อนั้นจะรู้ด้วยตนเองว่า อะไรเป็นงานหลักและเป็นงานที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์ ความรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเองจะเกิดขึ้น จะมีมหากรุณาเกิดขึ้นเองโดยไม่ต้องมีผลประโยชน์ใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง ทุกคนจะมีใจมุ่งตรงต่อจุดหมายปลายทางของชีวิต โดยมีมรรคผลนิพพานเป็นแก่นสาร ปรารถนาอยากให้คนทั้งโลกได้เข้าถึงพระธรรมกาย และอยากให้มวลมนุษยชาติมีความสุข เป็นความปรารถนาที่ยืนอยู่บนพื้นฐานของเจตนาอันบริสุทธิ์
ดังนั้น หลวงพ่อถึงปรารถนาที่จะให้ทุกหลังคาเรือนทั่วโลก เป็นครอบครัวแก้ว ครอบครัวธรรมกาย ครอบครัวที่สมาชิกทุกคนในบ้านเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข มีจิตใจเบิกบาน ยิ้มแย้มแจ่มใส ภายในก็มีพระรัตนตรัยเป็นสรณะ มีพระธรรมกายที่ใสสว่างเป็นที่พึ่งที่ระลึกกันทุกคน
พระธรรมกายเป็นสิ่งที่ชาวโลกต่างกำลังแสวงหา เป็นความปรารถนาอันสูงสุดของทุกคน เมื่อใดที่มวลมนุษยชาติได้เข้าถึงพระธรรมกาย เมื่อนั้นทุกคนจะพบกับความเหมือนกันที่สมบูรณ์ที่สุด ทั้งรูปร่างหน้าตา คุณสมบัติ ความบริสุทธิ์ และอานุภาพ จะพบกับกายมาตรฐานที่เป็นสากลจริงๆ เป็นกายที่สวยงาม ประกอบด้วยลักษณะมหาบุรุษทุกประการเหมือนกันหมด เหมือนเป็นพิมพ์เดียวกัน ที่มีความเสมอภาคที่แท้จริง เพราะเป็นวงศ์แห่งพระอริยเจ้า ที่ไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติศาสนา และเผ่าพันธุ์ใดๆ ทั้งสิ้น
ทุกคนจะมีดวงใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทั้งความคิด คำพูด และการกระทำ จะบริสุทธิ์เหมือนกันหมด มีความรักความปรารถนาดีต่อกัน ไม่มีความรังเกียจเดียดฉันท์ การเบียดเบียนแก่งแย่งชิงดีกัน เราจะเข้าใจได้ลึกซึ้งก็ต่อเมื่อได้ลงมือปฏิบัติธรรม จนกระทั่งได้เข้าถึงพระธรรมกายในตัวของเรา ดังนั้น การปฏิบัติธรรมจึงเป็นเรื่องหลักที่สำคัญที่มนุษย์ทุกคนในโลกจะต้องเอาใจใส่ และช่วยกันขยายสิ่งนี้ไปให้ทั่วโลก ให้เป็นโลกแก้วที่สว่างไสวด้วยแสงแห่งธรรม
โลกแก้ว โลกในอุดมคติของมวลมนุษยชาติ จะบังเกิดขึ้นได้ ต้องมีกัลยาณมิตร เพราะกัลยาณมิตรเป็นผู้สร้างสันติสุขให้บังเกิดขึ้นแก่ชาวโลก งานนี้เป็นงานสำคัญจะทำกันเพียงลำพังคนเดียวไม่ได้ ต้องอาศัยทีม และกำลังใจที่สูงส่ง ซึ่งจะสวนกระแสโลก และกิเลสในใจของมนุษย์ ให้หันมากลั่นจิตกลั่นใจให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ เปลี่ยนจากการแสวงหาผลประโยชน์ มาเป็นการให้คุณประโยชน์แก่กันและกัน มีความรัก และปรารถนาดี เสมือนว่าทุกคนในโลกใบนี้ เป็นพี่น้องท้องเดียวกัน
การจะเป็นครอบครัวแก้วครอบครัวธรรมกายได้นั้น จุดเริ่มต้นต้องอาศัยบ้านกัลยาณมิตรที่จะนำแสงสว่างส่องหนทางในการดำเนินชีวิตให้แก่ชาวโลกทั้งหลาย เพื่อไปสู่หนทางที่ถูกต้องดีงาม ดังนั้นก่อนที่จะถึง ๑๐ ล้านชั่วโมงธรรมกาย เราจะเริ่มกันที่แสนชั่วโมงแรกก่อนในวันเข้าพรรษา คือวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๔๓ ที่จะถึงนี้ ซึ่งถือว่าเป็นวันเริ่มต้นแห่งสิริมงคลของชีวิต เป็นพรรษาแห่งการเข้าถึงธรรมของพวกเราทุกๆ คน
ในวันนั้น เราจะร่วมกันสถาปนาบ้านกัลยาณมิตรขึ้นในโลก ให้เป็นสถานที่อันบริสุทธิ์สว่างไสวประดุจวิมานในเมืองมนุษย์ เพื่อรองรับผู้มีบุญที่จะมาเข้าถึงธรรม โดยสมาชิกทุกคนในบ้านจะตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมกันอย่างสม่ำเสมอทุกๆ วันมิให้ขาด ซึ่งอันที่จริง หลวงพ่ออยากให้ทุกบ้านทั่วโลก ปฏิบัติธรรมกันตลอดทั้งพรรษา แต่ในเบื้องต้น เราจะเริ่มกันที่นี่กันก่อน แล้วค่อยๆ ขยายบ้านกัลยาณมิตรออกไปเรื่อยๆ เพื่อให้สันติสุขแผ่ขยายไปทั่วโลก
สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้ เป็นความดี เป็นทางมาแห่งมหากุศล แม้นักสร้างบารมีในกาลก่อน ตลอดจนผู้มีบุญทั้งหลายท่านก็ทำกันอย่างนี้
* เหมือนอย่างในสมัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระนามว่า วิปัสสี มีสาธุชนผู้มีบุญได้ร่วมกันทำบ้านกัลยาณมิตร ทำสถานที่ปฏิบัติธรรมให้แก่ผู้ประพฤติธรรม โดยมีผู้นำบุญยอดกัลยาณมิตรท่านหนึ่ง เป็นผู้นำในการชักชวนมหาชนให้มาประพฤติธรรม ยิ่งกว่านั้น ยังได้ทำสถานที่ที่ตนอยู่อาศัยให้เป็นที่ปฏิบัติธรรม ถวายแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระสงฆ์สาวก ทำให้โลกในยุคนั้นสว่างไสวด้วยแสงแห่งธรรม ดวงใจของชาวโลกเต็มไปด้วยกระแสธารแห่งบุญ ผู้นำบุญท่านนั้นก็มีใจปลื้มปีติในบุญใหญ่ที่ตนเองได้ทำประโยชน์สุขให้เกิดขึ้นแก่มวลมนุษยชาติ
ครั้นหมดอายุขัยในชาตินั้น เหล่าสาธุชนที่มาประพฤติธรรมกันที่บ้านกัลยาณมิตรก็ได้ไปบังเกิดในเทวโลก มีวิมานสว่างไสวใหญ่โตสวยงาม เสวยทิพยสมบัติในกามาวจรภูมิ ด้วยผลแห่งบุญนั้น ในกัปที่ ๙๑ แต่กัปนี้ ท่านไม่เคยไปสู่ทุคติเลย และโดยเฉพาะในกัปที่ ๕๙ ท่านได้เกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิมีพระนามว่า อาเวละ และในทุกภพทุกชาติที่เกิดมา ท่านทำหน้าที่เป็นผู้นำบุญยอดกัลยาณมิตรอย่างนี้เรื่อยมา
จนกระทั่งมาถึงภพชาติสุดท้ายคือในชาตินี้ ท่านได้มาเกิดในครอบครัวที่มีตระกูลสูง และด้วยผลบุญที่ทำไว้ดีแล้วในอดีต บันดาลให้มาพบกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้พระพุทธองค์เป็นกัลยาณมิตรทำให้เกิดกุศลศรัทธา เมื่อเติบใหญ่ท่านได้ออกบวชเป็นพระ และอานิสงส์แห่งบุญนั้น ส่งผลให้ท่านได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์มีชื่อว่า พระสมาทปกเถระ หมายถึง พระเถระผู้ชักชวนคนอื่นให้สร้างความดี ผู้ถึงพร้อมด้วยวัตรปฏิบัติที่งดงามน่าเลื่อมใส แล้วยังมีหัวใจของยอดกัลยาณมิตรอย่างเปี่ยมล้นอีกด้วย
นี่เป็นเพราะผลบุญที่ท่านได้ทำหน้าที่นี้อย่างทุ่มเทสุดหัวใจ สนับสนุนผู้ประพฤติธรรม โดยให้สถานที่เป็นสัปปายะในการปฏิบัติธรรม ให้โอกาสผู้มีบุญทั้งหลายมาชุมนุมปฏิบัติธรรมกันอย่างสะดวกสบาย จึงทำให้ท่านบรรลุธรรมอย่างง่ายดาย
ดังนั้นการทำหน้าที่กัลยาณมิตร และการสถาปนาบ้านกัลยาณมิตร ให้เป็นแหล่งบุญสถาน บ้านแห่งการบรรลุธรรม เท่ากับว่าเรากำลังให้โอกาสในการเข้าถึงธรรมแก่เพื่อนมนุษย์อันเป็นที่รัก และยังเป็นที่ชุมนุมของผู้มีบุญนักปราชญ์บัณฑิตทั้งหลายที่จะมาประพฤติปฏิบัติธรรม ชำระกาย วาจา ใจให้สะอาดบริสุทธิ์ผ่องใส เราจะได้รับอานิสงส์ใหญ่ เป็นพลวปัจจัยให้ได้บรรลุมรรคผลนิพพานโดยเร็วไว จะมีความสุขไปทุกภพทุกชาติ ไม่ว่าเกิดในภพชาติใด จะมีแต่นักปราชญ์บัณฑิตเป็นกัลยาณมิตรคอยชี้แนะหนทางอันประเสริฐ และสิริมงคลทั้งหลายจะหลั่งไหลมาสู่ตัวเรา อานุภาพแห่งพระธรรมกายจะลงปกปักรักษาผู้ประพฤติธรรม ทำให้เกิดความสว่างไสวตลอดทั้งวันทั้งคืน
เพราะฉะนั้น การเปิดบ้านกัลยาณมิตรไว้รองรับผู้มีบุญ ผู้จะมาเข้าถึงธรรมที่บ้านของเรา จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด ในการขยายสันติสุขไปทั่วโลก พรรษานี้จึงขอเชิญชวนพวกเราทุกคนให้เปิดบ้านพื่อเป็นอริยสถานทิพย์วิมานบนเมืองมนุษย์กันทุกคน
พระธรรมเทศนาโดย: พระเทพญาณมหามุนี
นามเดิม พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)
* มก. เล่ม ๗๑ หน้า ๕๕๘
ที่มา - http://buddha.dmc.tv/