บ้านกัลยาณมิตรพาชีวิตสว่างไสว

       ธรรมอย่างหนึ่งที่มีอุปการะมาก ที่เป็นไปเพื่อความเกิดขึ้นแห่งอริยมรรค อันประกอบด้วยองค์ ๘ คือความเป็นกัลยาณมิตร เพราะบุคคลผู้มีกัลยาณมิตร พึงหวังได้ว่า จักเจริญในอริยมรรคมีองค์ ๘ และจะกระทำให้มากในอริยมรรคนั้น ซึ่งเป็นเหตุปัจจัยในการบรรลุพระนิพพาน


       เราเกิดมาสร้างบารมี นักสร้างบารมีต้องใช้เวลาทุกอนุวินาทีให้เป็นประโยชน์ต่อการสร้างบารมีอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างสันติสุขให้บังเกิดขึ้นแก่โลก ให้เป็นโลกแก้วศิวิไลซ์ ที่สว่างไสวด้วยแสงแห่งธรรมอำไพ ผู้รู้ทั้งหลายต่างปรารถนาที่จะให้มวลมนุษยชาติปรองดองกัน เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นครอบครัวแก้ว ครอบครัวธรรมกาย ที่ทุกดวงใจประสานกันเป็นหนึ่งเดียวกับพระธรรมกายภายใน เพราะเมื่อใจทุกดวงตั้งอยู่ในกลางธรรมกาย ตรงศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ความเป็นเครือญาติกันอย่างแท้จริงก็จะบังเกิดขึ้น มนุษย์จะมีความรักความปรารถนาดีต่อกัน แล้วสันติสุขอันไพบูลย์ที่เราปรารถนาร่วมกันก็จะเกิดขึ้น

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน กัลยาณมิตตสูตร ความว่า

“ธรรมอย่างหนึ่งที่มีอุปการะมาก ที่เป็นไปเพื่อความเกิดขึ้นแห่งอริยมรรค อันประกอบด้วยองค์ ๘ คือความเป็นกัลยาณมิตร เพราะบุคคลผู้มีกัลยาณมิตร พึงหวังได้ว่า จักเจริญในอริยมรรคมีองค์ ๘ และจะกระทำให้มากในอริยมรรคนั้น ซึ่งเป็นเหตุปัจจัยในการบรรลุพระนิพพาน”

       ที่พระองค์ตรัสอย่างนี้ เพราะว่าการทำหน้าที่กัลยาณมิตรนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยชี้บอกหนทางสวรรค์และพระนิพพานให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ให้เขาได้ดำเนินชีวิตอย่างปลอดภัย ไม่ผิดพลาด ไม่หลงทางพระนิพพาน ดังนั้น ผู้นำบุญยอดกัลยาณมิตร จึงเป็นเหมือนบุพนิมิตของการบังเกิดขึ้นแห่งอริยมรรค เป็นผู้จุดประกายความสว่างแห่งการตรัสรู้ธรรม ให้เวไนยสัตว์ผู้ตกอยู่ในท่ามกลางความมืดมิด ได้พบกับแสงสว่างแห่งสันติสุขที่แท้จริง

       เพราะฉะนั้น การทำหน้าที่ผู้นำบุญยอดกัลยาณมิตร จึงมีความสำคัญต่อโลก โลกจำเป็นต้องมีกัลยาณมิตร ผู้เป็นแสงสว่างส่องนำทางชีวิต ให้ทุกชีวิตไปสู่จุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพ ด้วยเหตุนี้ หลวงพ่อจึงมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้มี “บ้านกัลยาณมิตร” เกิดขึ้น ในทุกหนทุกแห่ง ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอ ทุกจังหวัด ทั่วประเทศ และทุกประเทศทั่วโลก อยากจะให้โลกนี้เป็นโลกแก้วที่ใสบริสุทธิ์ เหมือนดวงธรรมภายใน และมวลมนุษยชาติรักในการประพฤติปฏิบัติธรรม รักความสะอาดบริสุทธิ์ จิตใจจะได้ใสเป็นแก้ว ใสเป็นเพชร มีความคิดสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงาม และเป็นประโยชน์ต่อโลก คิด พูด ทำ แต่ในสิ่งที่เป็นบุญกุศลล้วนๆ เหมือนกันหมด เมื่อนั้น แสงสว่างแห่งธรรม ก็จะไปถึงเพื่อนมนุษย์ทั่วโลก

       ถ้าเราสถาปนาบ้านของเรา ให้เป็นบ้านกัลยาณมิตร พวกเราทุกคนจะมีปีติสุขเป็นรางวัลทุกครั้งที่ระลึกถึง เหมือนหลวงพ่อนึกถึงบ้านกัลยาณมิตรหมายเลข ๑ ครั้งใด ก็เกิดความปลื้มปีติเป็นสุขใจ ที่ได้เห็นผู้มีบุญทั้งหลายมาประพฤติปฏิบัติธรรม แล้วเขาเข้าถึงความสุขภายใน มีการเปลี่ยนแปลงของชีวิต จากชีวิตที่เคยมืดมิด ไปสู่ชีวิตที่สว่างไสว เหมือนความมืดมิดในจิตใจดับสิ้นไป แต่ความสว่างไสวแห่งชีวิตได้เริ่มต้นขึ้น เป็นแสงสว่างที่นำชีวิตไปสู่ความประเสริฐ เช่นเดียวกับบัณฑิตผู้รู้ทั้งหลาย ที่ท่านได้บรรลุวัตถุประสงค์ของชีวิตกันมาแล้ว

       เหมือนอย่างพระอรหันต์รูปหนึ่ง ท่านชื่อ “พระนันทกะเถระ” เมื่อท่านบรรลุอรหัตผล สมบูรณ์พร้อมด้วยอภิญญาและปฏิสัมภิทาแล้ว ท่านระลึกชาติหนหลัง ด้วยบุพเพนิวาสานุสติญาณ ตรวจดูประวัติการสร้างบารมีของตนเองว่า ได้ไปประกอบเหตุอะไรมาจึงได้เป็นพระอรหันต์ขีณาสพ ท่านก็พบว่า ในอดีตท่านเป็นผู้ชอบให้ความสุขความสะดวกสบายแก่ผู้อื่น ท่านได้ให้ที่อยู่อาศัย ให้สถานที่ประพฤติปฏิบัติธรรมแก่ผู้มีบุญทั้งหลายเอาไว้สำหรับทำความดี แล้วท่านก็มีความสุขกับการทำอย่างนี้ตลอดมา

       * มีอยู่ชาติหนึ่ง ท่านได้มาเกิดเป็นมาณพหนุ่ม ผู้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด มีความเลื่อมใสในพระรัตนตรัย ครั้งนั้น บุญบันดาลให้ท่านมาพบกับพระปัจเจกพุทธเจ้านามว่า อนุรุทธะ ด้วยอัธยาศัยที่ชอบในการปฏิสันถาร บำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่นเป็นนิตย์ ท่านจึงไปหาไม้มาทำเป็นเสา ๔ ต้น แล้วมุงด้วยดอกบัว เพื่อเป็นที่สำหรับปฏิบัติธรรมของพระปัจเจกพุทธเจ้า เหตุเพราะความคุ้นเคยกับการทำบ้านกัลยาณมิตร ให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมแก่ผู้มีบุญ ท่านจึงได้ทำสิ่งนี้ถวายแด่พระองค์

       ใจจริงท่านปรารถนาจะหารัตนะมาทำเป็นปราสาทให้พระปัจเจกพุทธเจ้าแทนไม้ และดอกบัวที่หาได้ในขณะนั้น แต่เมื่อทำได้ดีที่สุดเพียงเท่านี้ ในสถานการณ์อย่างนี้ ท่านก็ตั้งใจทำด้วยหัวใจทีเดียว ไม่คอยให้ทุกอย่างพร้อมก่อนถึงจะลงมือทำ เพราะท่านรู้ว่า โอกาสแห่งการสร้างบารมีนั้น มีค่ายิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ท่านจึงพร้อมเสมอที่จะทำความดีในทันที เมื่อทำแล้วก็เกิดความปลื้มปีติเลื่อมใส และได้ออกบวชเป็นบรรพชิตในชาตินั้นด้วย

       ครั้นหมดอายุขัยในชาตินั้น ท่านได้ไปบังเกิดเป็นเทพบุตรบนสวรรค์ชั้นดุสิตในวิมานทอง รูปดอกบัวใหญ่โตโอฬาร สวยงามมาก มีรัศมีสว่างไสว เป็นเทพบุตรที่มีอานุภาพมาก เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ในสมัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา บุญนั้นก็อำนวยให้ท่านสมบูรณ์พร้อมด้วยสมบัติในเมืองมนุษย์ แล้วมีบุญพิเศษหลายอย่างเกิดขึ้นกับท่าน คือไม่ว่าท่านจะนั่งหรือนอนที่ตรงไหน ก็จะมีดอกบัวรองรับเสมอ ถ้าอยู่ในที่แจ้งก็มีดอกบัวกั้นเหมือนเป็นเศวตฉัตรลอยอยู่เบื้องบน แม้เดินไปในที่ที่ร้อนระอุ มีพยับแดดเต้นไหวอยู่ แสงแดดก็ไม่อาจแผดเผาท่าน เหมือนเดินไปในห้องแอร์ที่เย็นฉํ่า หอมฟุ้งไปด้วยกลิ่นดอกบัว

       หากท่านต้องเดินไปบนผิวน้ำ เพียงแค่นึกในใจว่า ให้น้ำเป็นเหมือนแผ่นดิน ท่านก็สามารถเดินข้ามแม่น้ำนั้นไปได้ เหมือนเดินไปบนแผ่นดิน โดยเท้าไม่เปียกน้ำ ผลบุญนั้นทำให้ท่านมีอานุภาพมากถึงเพียงนี้ทีเดียว เป็นสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติ แต่ก็เป็นความจริง แล้วบุญยังได้บันดาลให้ท่านมาพบกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาได้ยินได้ฟังคำสอนที่ว่า “ถ้าหากจะตั้งความปรารถนาดี ต่อพวกพ้องบริวารหรือญาติมิตร พึงชักชวนพวกเขาให้ตั้งมั่นอยู่ในพระรัตนตรัย คือแนะให้เขามีจิตเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า เลื่อมใสในพระธรรม และพระสงฆ์ แม้มหาภูตทั้ง ๔ คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม อาจจะมีการแปรเปลี่ยนไปได้ แต่ผู้มีจิตเลื่อมใสไม่คลอนแคลนในพระรัตนตรัย เขาจะไม่ตกไปสู่อบายภูมิเลย จะมีสุคติสวรรค์เป็นที่ไปอย่างเดียวเท่านั้น” เมื่อท่านได้ฟังดังนั้น เกิดความปลื้มปีติในธรรม เกิดกุศลศรัทธา จึงได้ออกบวช และก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์อย่างง่ายดาย

       เพราะฉะนั้น ถ้าใครอยากได้บุญใหญ่ ที่เป็นไปเพื่อการตรัสรู้ธรรม ติดตัวไปข้ามภพข้ามชาติ มีญาติมิตรพวกพ้องบริวาร เป็นนักปราชญ์บัณฑิต เป็นสัมมาทิฏฐิ มีกัลยาณมิตรคอยแนะนำ ประคับประคองให้อยู่ในเส้นทางการสร้างบารมีตลอดไป ให้เริ่มต้นด้วยการเปิดบ้านกัลยาณมิตร เพื่อให้ผู้มีบุญได้มากลั่นกาย วาจา ใจ ทำความบริสุทธิ์ให้บังเกิดขึ้นแก่โลก โลกของเราจะเป็นโลกแก้วที่น่าอยู่ ในวันธรรมดาเราปฏิบัติกันที่บ้าน ส่วนวันอาทิตย์ เราก็มาสร้างบารมีรวมกันที่วัดพระธรรมกาย หรือที่วัดใกล้บ้านเราตามแต่สะดวก

       บุญในการสถาปนาบ้านกัลยาณมิตรเป็นบุญใหญ่ จะทำให้เราสมปรารถนาในทุกสิ่งที่มุ่งหวัง การที่เราใช้บ้านให้เป็นแหล่งบุญสถาน บ้านแห่งการบรรลุธรรม เท่ากับว่าเรากำลังให้โอกาสในการเข้าถึงธรรมแก่เพื่อนมนุษย์อันเป็นที่รัก

       เราจะได้รับอานิสงส์ใหญ่ เกิดภพชาติใด จะมีแต่นักปราชญ์บัณฑิตเป็นกัลยาณมิตร คอยชี้แนะหนทางอันประเสริฐ และสิริมงคลทั้งหลายจะหลั่งไหลมาสู่ตัวเรา อานุภาพแห่งพระธรรมกายจะลงปกปักรักษาผู้ประพฤติธรรม ทำให้เกิดความสว่างไสวตลอดทั้งวันทั้งคืน ดังนั้น การเปิดบ้านกัลยาณมิตรไว้รองรับผู้มีบุญที่จะมาเข้าถึงธรรมที่บ้านของเรา จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด ในการขยายสันติสุขไปทั่วโลก พรรษานี้หลวงพ่อจึงขอเชิญชวนทุกท่านได้เปิดบ้านให้เป็นอริยสถานทิพย์วิมานบนเมืองมนุษย์ จะได้เป็นพรรษาแห่งการบรรลุธรรม เป็นพรรษาแห่งความสมปรารถนาของพวกเราทุกคน

พระธรรมเทศนาโดย: พระเทพญาณมหามุนี
นามเดิม พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)

* มก. เล่ม ๗๑ หน้า ๙๗๖

ที่มา - http://buddha.dmc.tv